แถลงข่าวความร่วมมือ “โครงการจัดตั้งเครือข่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)”
วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เครือข่ายมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือ “เครือข่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)” ภายในงานมหกรรมสหวิทยาการ ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม (อว. แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND)
โดยได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน รองศาสตราจารย์ ดร. ดวงพรรณ กริชชาญชัย หัวหน้าศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน จากนั้น รองศาสตราจารย์ เภสัชกรสุรกิจ นาทีสุวรรณ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนางสาวศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบวิจัย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกล่าวถึงทิศทางในการให้การสนับสนุนเครือข่ายความร่วมมือของหน่วยงาน โดยผู้บริหาร คณาจารย์ และผู้แทนมหาวิทยาลัยสมาชิกเครือข่ายทั้ง 8 แห่ง และภาคอุตสาหกรรม 2 แห่ง เข้าร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุม MR207 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
การจัดตั้งเครือข่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นการรวมกลุ่มเครือข่ายนักวิจัย นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ ระหว่างมหาวิทยาลัยเครือข่ายและภาคเอกชน ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาให้ประเทศไทยไปสู่ความเป็นศูนย์กลางด้าน Digital Health ภาคสาธารณสุข โดยจะดำเนินการทำงานในระดับประเทศและนานาชาติ
ด้วยความร่วมมือของเครือข่ายที่แสดงถึงศักยภาพของแต่ละมหาวิทยาลัยที่มีเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน แต่สามารถนำมาผนวกองค์ความรู้เพื่อสร้างนวัตกรรมตอบโจทย์การพัฒนาของประเทศ โดยที่ได้รับการสนับสนุนจัดตั้ง Hub of Talents ด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสุขภาพ จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยจะดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพกลุ่มเครือข่ายมหาวิทยาลัยร่วมกับภาคเอกชน ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและบูรณาการศาสตร์องค์ความรู้ที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน Digital Health ได้แก่ โลจิสติกส์การดูแลสุขภาพ (Healthcare Logistics), เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพ (Health Technology and AI), วิทยาการหุ่นยนต์ทางการแพทย์ (Robotics) และการดูแลสุขภาพด้วยเครื่องมือดิจิทัล (Digital Health Devices) ให้ตรงตามเป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ส่งเสริมการสร้างสรรค์พัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้มีโอกาสในการสร้างมูลค่าทางพาณิชย์ และสร้างระบบนิเวศการวิจัยร่วมกัน (Eco System) ที่พร้อมให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมการวิจัยและพัฒนา เพื่อส่งเสริมศักยภาพ และสนับสนุนให้เกิดการผลักดันทางธุรกิจร่วมกับหน่วยวิจัยภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ผลความสำเร็จจากเครือข่ายนี้ จะทำให้ภาคมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และกลุ่มอุตสาหกรรมได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน เกิดการพัฒนาหลักสูตรเฉพาะทาง การแลกเปลี่ยงองค์รู้ ร่วมถึงการบริการโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรของมหาวิทยาลัยเครือข่ายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้เชื่อมโยงองค์ความรู้ทุกภาคส่วนสู่ธุรกิจนวัตกรรม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการกระตุ้นการลงทุน วิจัยและพัฒนา (Research and Development) เพื่อการค้นหานวัตกรรมใหม่ในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการพัฒนากำลังทรัพยากรบุคคลและแรงงานที่มีความรู้ความสามารถและนำความรู้ด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์ต่อการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน
สำหรับกลไกการส่งเสริมการพัฒนาเครือข่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่จะดำเนินการให้เกิดความเข้มแข็งและมีความต่อเนื่อง คือ จัดพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน พร้อมขอรับการสนับสนุนทุนในการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข เครือข่ายเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข” (Specialized Medical Innovation and Technology Network) ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Focus Group) ด้าน Digital Healthcare Innovation and Technology เพื่อร่างแผนแม่บทด้าน Digital Healthcare Innovation and Technology เป็นนโยบายและแผนระดับชาติ