วช. ผนึกเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ จัดสัมมนาระดมสมองครั้งใหญ่ วางรากฐาน “แผนแม่บทวิจัยด้าน Health Innovation and Technology” สู่อนาคตระบบสุขภาพไทย
วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 – สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Health Innovation and Technology Network: HIT Network) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากมหาวิทยาลัย จำนวน 16 แห่ง จาก 12 คณะ หน่วยงานภาครัฐ 19 แห่ง และภาคเอกชนอีก 6 แห่ง จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำแผนแม่บทวิจัยด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข” ณ ห้องประชุมวีนัส ชั้น 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหารระดับนโยบาย นักวิชาการ นักวิจัย และตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาร่วมกว่า 100 คน
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. กล่าวเปิดงาน พร้อมเน้นย้ำบทบาทของ วช. ในการผลักดัน “Hub of Talents” เพื่อสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระดับชาติ โดยมุ่งเน้นให้งานวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์จริง ทั้งในด้านวิชาการ อุตสาหกรรม และบริการสาธารณสุข พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ศูนย์ HIT Network จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัลของไทยให้เข้มแข็ง ทันสมัย และตอบโจทย์ประชาชนในทุกมิติ
รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงพรรณ กริชชาญชัย หัวหน้าศูนย์ HIT Network กล่าวถึงที่มาของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เป็นก้าวสำคัญในการกำหนดทิศทางเชิงยุทธศาสตร์ของการวิจัยและนวัตกรรมด้านสุขภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาแผนแม่บทระดับชาติด้าน Digital Health พร้อมวางรากฐานการพัฒนาศักยภาพกำลังคนเพื่อรองรับระบบสุขภาพยุคใหม่อย่างยั่งยืน
และภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับนโยบายร่วมปาฐกถาพิเศษ เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์และแนวทางการขับเคลื่อนนวัตกรรมสุขภาพของประเทศไทย ได้แก่
- ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ มีอยู่ รองผู้อำนวยการ สกสว.เน้นบทบาทของงานวิจัยและนวัตกรรมในการยกระดับระบบสุขภาพ และการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ขั้นสูง โดยสนับสนุนโครงการเชิงกลยุทธ์ที่บูรณาการระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม โดย สกสว. ได้วางยุทธศาสตร์ระยะปีพ.ศ. 2566–2570 เพื่อสนับสนุนการวิจัยเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง อาทิ วัคซีน ยาชีววัตถุ และสมุนไพร พร้อมตั้งเป้าลดการพึ่งพาการนำเข้า และขยายการเข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพคุณภาพให้ประชาชน
- นายธีรวุฒิ ธงภักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “นโยบายภาครัฐกับ Digital Health Innovation & Technology: ทิศทางและแนวทางขับเคลื่อนประเทศ” โดยเน้นย้ำถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลด้านสุขภาพของประเทศผ่าน ระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพระดับประเทศ เพื่อยกระดับการบริการทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และต่อเนื่อง
- นพ.ศุภฤกษ์ ถวิลลาภ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข บรรยายพิเศษในหัวข้อ “นโยบายสาธารณสุขกับ Health Innovation & Technology” โดยเน้นย้ำการยกระดับระบบข้อมูลสุขภาพของประเทศผ่าน Digital Health Ecosystem ที่เชื่อมโยงระบบเวชระเบียน, e-KYC, บัตรสุขภาพดิจิทัล, และคลังภาพรังสีระดับชาติ เพื่อสนับสนุนการแพทย์แม่นยำ ลดความซ้ำซ้อนในการรักษา และสร้างบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ
- คุณวิพัตรา โตเต็มโชคชัยการ จาก FutureTales Lab, MQDC ถ่ายทอดมุมมองอนาคตระบบสุขภาพไทยในปี พ.ศ. 2576 ผ่าน 5 ฉากทัศน์ ตั้งแต่สถานการณ์วิกฤตสาธารณสุข ไปจนถึงการเป็นสังคมสุขภาพอัจฉริยะ โดยใช้กระบวนการ Lean Foresight เพื่อเตรียมพร้อมให้ทุกภาคส่วนก้าวทันความเปลี่ยนแปลง
ในช่วงท้ายของการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ มีการจัดกิจกรรมระดมสมองแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหลัก ได้แก่
- กลุ่มที่ 1: ระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ (Healthcare Logistics and Supply Chain Management)
ดำเนินการระดมสมองโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงพรรณ กริชชาญชัย หัวหน้าศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล - กลุ่มที่ 2: ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ (AI and Robotics in Healthcare)
ดำเนินการระดมสมองโดย รองศาสตราจารย์ นพ.เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รองอธิการบดีฝ่ายสารสนเทศและดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น มหาวิทยาลัยมหิดล - กลุ่มที่ 3: สุขภาพดิจิทัลและเทคโนโลยี (Digital Health and Technology)
ดำเนินการระดมสมองโดย นายแพทย์ศุภฤกษ์ ถวิลลาภ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ด้านคลังข้อมูล) กระทรวงสาธารณสุข
ทั้งสามกลุ่มได้ร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน แนวโน้มในอนาคต และระบุประเด็นความท้าทายสำคัญของระบบสุขภาพไทย พร้อมนำเสนอข้อเสนอเชิงยุทธศาสตร์ที่สามารถนำไปใช้ในการจัดทำแผนแม่บทวิจัยระดับชาติ อาทิ การกำหนดเป้าหมายการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัลให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม การวางกรอบโจทย์วิจัยและนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และการพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้าน Digital Health ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบสุขภาพแห่งอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
การจัดสัมมนาระดมสมองในครั้งนี้ จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการวิจัยและนวัตกรรมสุขภาพของประเทศในอนาคต โดยข้อเสนอที่ได้จากการระดมความคิดเห็นในวันนี้จะถูกนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาแผนแม่บทวิจัยระดับชาติ ที่ไม่เพียงมุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย แต่ยังครอบคลุมถึงการนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์จริงในระดับพื้นที่ และการเตรียมความพร้อมบุคลากรให้ทันต่อโลกสุขภาพยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง